Categories
News

เหตุใดโลกจึงประสบปัญหาขาดแคลนข้าวอย่างหนักที่สุดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา

รายงานฉบับใหม่ระบุว่าการผลิตข้าวในปีนี้จะเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนทั่วโลกครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
ในขณะที่ตลาดข้าวทั่วโลกตกต่ำ อุตสาหกรรมนี้คาดว่าจะขาดดุล ระหว่างอุปสงค์และอุปทาน มากที่สุดในรอบ 20 ปี ซึ่งหมายความว่าราคาข้าวคาดว่าจะยังคงสูงจนถึงปี 2567

ตามรายงาน ของบริษัทการเงินและ ประกันภัย Fitch Solutions ราคาข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 17.30 ดอลลาร์ต่อร้อยน้ำหนัก (cwt) จนถึงปี 2566 และคาดว่าจะลดลงเหลือเพียง 14.50 ดอลลาร์ต่อตันในปี 2567

“ในระดับโลก ผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดของการขาดดุลข้าวทั่วโลกคือ และยังคงเป็นราคาข้าวที่สูงในรอบทศวรรษ” ชาร์ลส์ ฮาร์ต นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของบริษัทกล่าวกับซีเอ็นบีซี

ปัญหาการขาดแคลนเป็นผลมาจากสงครามต่อเนื่องของรัสเซียในยูเครน และสภาพอากาศเลวร้ายในประเทศผู้ผลิตข้าว รวมทั้งจีนและปากีสถาน

สงครามได้เพิ่มต้นทุนของธัญพืชที่สำคัญ เช่น ข้าวสาลี ซึ่งได้เพิ่มความต้องการธัญพืชทางเลือก เช่น ข้าว

ยิ่งไปกว่านั้น Hart ตั้งข้อสังเกตว่าการขาดแคลนเป็นผลมาจาก “การเก็บเกี่ยวของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ลดลงทุกปี เกิดจากความร้อนจัดและความแห้งแล้ง รวมถึงผลกระทบจากน้ำท่วมรุนแรงในปากีสถาน”

จีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก และปากีสถาน ซึ่งผลิต ข้าว ประมาณ 7.6% ของปริมาณข้าวของโลก ได้รับผลกระทบอย่างมากจากฝนมรสุมและน้ำท่วมในปีที่แล้ว

ผลผลิตข้าวที่ลดลงจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งบริโภคข้าว 90% ของโลก

ประเทศที่บริโภคข้าวมากที่สุดระหว่างปี 2562-2565ได้แก่ จีน อินเดีย บังคลาเทศ อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไทย พม่า ญี่ปุ่น และบราซิล

“เนื่องจากข้าวเป็นสินค้าอาหารหลักในหลายตลาดในเอเชีย ราคาจึงเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อของราคาอาหารและความมั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครัวเรือนที่ยากจนที่สุด” ฮาร์ตกล่าว

Oscar Tjakra นักวิเคราะห์อาวุโสของ Rabobank ธนาคารอาหารและการเกษตรระดับโลก กล่าวกับ CNBC ว่าการขาดดุลดังกล่าวถูกกำหนดให้ “เพิ่มต้นทุนการนำเข้าข้าวสำหรับผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และประเทศในแอฟริกาในปี 2566”